ประเด็นสุขภาพน่าสนใจในช่วงนี้ เห็นจะเป็นเรื่องของ ภัยจากกัมมันตภาพรังสี ที่หลายๆคนเป็นห่วงว่าจะมีการแพร่กระจายมาจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ และหลายท่านคงหาทางป้องกัน อย่างที่มีคนพูดกันมากคือการกินไอโอดีนเพื่อป้องกันต่อมไทรอยด์ เรามาดูเหตุผล ที่มาที่ไป การกินไอโอดีน และพิษของมัน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ.อธิบายถึงยาโพแทสเซียมไอโอไดด์ หรือไอโอดีน ว่า เป็นยาที่ผลิตขึ้นในสูตรเดียวกับที่ประเทศรัสเซียใช้ เมื่อเกิดการระเบิดของโรงไฟฟ้าปรมาณู ที่รัสเซีย โดยนักวิจัยพบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์ จากรังสีไอโอดีน 131 (รังสีแกมมาและเบต้า) ได้ดี ดังนั้น จึงปกป้องประชาชนที่ได้รับสารกัมมันตรังสีได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจัดเป็นยาเฉพาะที่ผลิตมาเพื่อสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น
การที่จะแจกจ่ายให้ประชาชนได้ก็ต้องได้รับการยืนยันก่อนว่า จำเป็นต้องใช้จริงๆ สำหรับวิธีรับประทาน โพแทสเซียมไอโอไดด์ หรือไอโอดีน คือ สามารถรับประทานได้ก่อนเข้าสู่พื้นที่เสี่ยง ที่มีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ก่อน 1-12 ชม.โดยฤทธิ์ของยาจะอยู่ได้นาน 24 ชม.เด็กอายุ 1 เดือนถึง 3 ปี รับประทานขนาด 32 มิลลิกรัม เด็กอายุ 3-18 ปี ทาน 65 มิลลิกรัม ส่วนผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปีแต่ไม่เกิน 40 ปี ทานในขนาด 130 มิลลิกรัม คือ ปริมาณ 1 เม็ดนั่นเอง สำหรับผู้ใหญ่วัยตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไปนั้นนับว่าเป็น กลุ่มที่อาจเสี่ยงต่อการแพ้ยาโพแทสเซียมไอโอไดด์ หรือไอโอดีน ดังกล่าวอย่างมาก ดังนั้น แนะนำว่า ถ้าไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงมากของรัศมีการแพร่สารกัมมันตรังสีก็ไม่แนะนำให้ทาน เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงจากยาชนิดนี้ ส่วนหญิงตั้งครรภ์ควรรับประทานขนาด 130 มิลลิกรัม ปริมาณแค่ 1 เม็ดครั้งเดียว
“ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น จากการแพ้ยา คือ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ร้อนในปากและลำคอ บางรายมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย หรือขั้นต่อมน้ำลายอักเสบ หรือมีน้ำตาไหลออกมา ซึ่งเป็นอาการของการแพ้ยา ดังนั้นแนะนำว่า หากเลี่ยงได้ไม่ควรจะเดินทางเข้าใกล้บริเวณที่มีสารกัมมันตรังสีเลยจะดีกว่า เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้ยาดังกล่าว” นพ.วิทิต กล่าวแนะนำ
หลายคนมีข้อสงสัยว่า ยาโพแทสเซียมไอโอไดด์ นั้น เป็นยาชนิดเดียวกับยาไอโอดีนเม็ดที่ให้หญิงตั้งครรภ์ หรือเปล่า ความจริงข้อนี้ คือ เป็นชนิดที่เข้มข้นกว่าถึง 1,000 เท่า จึงไม่แปลกที่จะต้องมีการควบคุมพิเศษสำหรับการผลิตเพื่อใช้ในด้านสาธารณสุข
นพ.วิทิต บอกอีกว่า ข้อควรระวังเป็นพิเศษสำหรับการใช้ยาโพแทสเซียมไอโอไดด์ อีกประการที่ประชาชนต้องทราบ คือ ยาชนิดนี้ห้ามใช้ในคน 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่ใช้แพ้ไอโอดีน 2.ผู้ป่วยต่อมไทรอยด์มีพิษโดยกลุ่มนี้หาเป็นกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับยา 3.การจะกินยานี้ได้ ต้องไม่มีการกินยาชนิดอื่นที่มีไอโอดีนอยู่แล้ว และกลุ่มที่ 4 คือ ผู้ป่วยโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
ผู้อำนวยการ อภ.ฝากอีกว่า เหตุที่แพทย์และเภสัชกรมีข้อแนะนำดังกล่าก่อนการใช้ยา เนื่องจากยาชนิดนี้เป็นชนิดเข้มข้น ซึ่งประชาชนควรรู้ไว้ว่าหากกินยาเกินขนาดหรือมีความถี่กว่าข้อแนะนำในฉลากยา นั้นไม่ได้ช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีกว่าเดิมในการป้องกันการเกิดมะเร็งของต่อม ไทรอยด์ จากรังสีไอโอดีน 131 เลย หากแต่จะยิ่งทวีความรุนแรงต่อการกระตุ้นอาการแพ้ และเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคความดันโลหิตสูง Hypertension (อัพเดต 2024) ถือเป็นโรคเรื้อรังโรคหนึ่งที่มีประวัติยาวนาน คู่กับการแพทย์ มีการปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติมาเรื่อยๆล่าสุดคือ 2024 หรือ 2567
อัพเดต อาการ การรักษา โรคไข้เลือดออก หรือ ไข้เดงกี่ (Dengue fever ) รวมถึง ไข้เลือดออกเดงกี่ Dengue Hemorrhagic fever เป็นโรคไข้จากไวรัส…
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2023-2024 องค์การอนามัยโลก For trivalent vaccines for use in the 2023-2024 northern hemisphere influenza season,…
Thaihealth เปิดโซนสุขภาพเด็ก แนะนำบทความจาก Thaihealth Old News ครับ
ฮีทสโตรก heatstroke ภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินปกติและควบคุมไม่ได้ โดยทั่วไปคือภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิแกนกลาง (core temperature) มากกว่า 40 องศาเซลเซียส ก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะต่างๆอย่างเฉียบพลัน ถือเป็นภาวะที่ต้องรักษาเร่งด่วน
อาการวิงเวียนศีรษะ เวียนหัวเฉียบพลัน เคสผู้ป่วยวิงเวียนนี้ อายุรแพทย์จะต้องได้เจอทุกวัน อาจจะวันละหลายๆครั้ง หลากหลายอาการ คนไข้จะบอกเล่า ตั้งแต่ อาการต่างๆ เช่น อยู่ๆก็เหมือนบ้านหมุน ทรงตัวไม่ได้ อันนี้อาการมาก เวียนเซ เป็นตอนขยับศีรษะ…