กระเพาะปัสสาวะอักเสบเฉียบพลัน หรือ acute cystitis วันนี้เรามารีวิวกัน กับอาการ การวินิจฉัย และการรักษา
อาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
กระเพาะปัสสาวะมีหน้าที่กักเก็บปัสสาวะ เพื่อรอจังหวะขยายตัวถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีการกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะ และปล่อยปัสสาวะโดยการเบ่งและทำให้กล้ามเนื้อหูรูด (sphincter )คลายตัวออกมา พร้อมกับกล้ามเนื้อเรียบของกระเพาะปัสสาวะจะหดตัวพร้อมกัน เบ่งให้ปัสสาวะออกมา พอปัสสาวะหมดก็จะมีการหดรัดกล้ามเนื้อหูรูดปิด และกระเพาะปัสสาวะจะคลายตัว
อาการที่เกิดขึ้นก็จะเนื่องจากรบกวนกลไกต่างๆของธรรมชาติทำให้ อาการดังต่อไปนี้
- อาการเนื่องจากมีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ หดตัวได้ไม่เต็มที่ ปัสสาวะไม่หมด สะดุด ปัสสาวะบ่อย
- ปวดเวลาสุด เวลาที่กล้ามเนื้อหูรูดหดจะปวดแปลบ บางคนปวดเวลาเริ่มปัสสาวะ หลังปัสสาวะแล้วก็ยังปวดบริเวณกระเพาะปัสสาวะหรือที่ท้องน้อย
- ปัสสาวะแสบ บางทีขุ่น บางทีมีเลือดปน บางทีไหลหยด
- ถ้าสาเหตุจากนิ่ว อาจมีก้อนนิ่ว กรวดทราย
- ถ้าเกิดจากการกลั้นปัสสาวะนานๆจนกระเพาะปัสสาวะคราก ก็จะมีปัสสาวะไหลแบบกลั้นไม่ได้
- ถ้าสาเหตุจากต่อมลูกหมากโต หรือมะเร็ง ก็จะมีปวดจุกที่บริเวณฝีเย็บ (ใกล้ๆก้น) ปัสสาวะออกไม่หมด
- อาการร่วมของการติดเชื้อ เช่น ไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อย อาเจียน
สาเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ในทางการแพทย์ให้มองว่า ระบบปัสสาวะคือท่อทางเดินน้ำปัสสาวะตั้งแต่ไตลงมาถึงปลายท่อปัสสาวะ บนผนังท่ออันเดียวกัน นั่นคือ เชื้อโรคสามารถวิ่งย้อนเข้ามาได้ จากท่อปัสสาวะ จนถึงกระเพาะปัสสาวะ ท่อไต และอาจไปถึงไตได้
แต่กลไกธรรมชาติจะมีหูรูด มีสารที่หลั่งจากต่อมลูกหมาก มีการไหลของปัสสาวะล้างออกมาตลอด และน้ำปัสสาวะก็มีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออยู่บ้างแล้ว โอกาศที่จะเกิดมีการติดเชื้อย้อนจึงมีน้อย แต่ก็เกิดขึ้นได้ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีการติดเชื้อ ได้แก่
- การมีการคั่ง หรืออุดกั้นน้ำปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะนานเกิน ทำให้เกิดมีเชื้อเจริญขึ้น อย่างที่หลายคนชอบบอกว่า กลั้นปัสสาวะนานเกิด แต่อาจมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดการอุดกั้นขึ้น เช่น หูรูดทำงานผิดปกติ ต่อมลูกหมากโตอุด ก้อนนิ่วอุด เป็นต้น
- ผู้หญิง มีกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยกว่า เกือบร้อยทั้งร้อยเพราะเชื้อมาจากลำไส้ใหญ่หรืออุจจาระ ย้อนกลับมาเข้าท่อปัสสาวะ (อยู่ใกล้กันมาก) ดูที่นี่ การป้องกันกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
การวินิจฉัยและรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ส่วนใหญ่ของการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีการติดเชื้อ ควรเก็บปัสสาวะตรวจ ส่งเพาะเชื้อ หรือในกรณีสงสัยต่อมลูกหมาก หรือมีนิ่วในท่อทางเดินปัสสาวะ ท่อไต หรือนิ่วในไต ก็แนะนำตรวจเพิ่มเติม เช่นตรวจเลือด เอ็กซเรย์ หรืออัลตราซาวด์
การรักษา ส่วนใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อ และเชื้อส่วนใหญ่คือเชื้อแบคทีเรียแกรมลบที่อยู่ในทวารหนักและลำไส้ใหญ่ ดังนั้น ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ให้ยาแก้ปวด ลดอาการบีบเกร็ง และให้ดื่มน้ำมาก ๆ เลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ
ถ้าอาการเกิดขึ้นมาซ้ำ มากกว่า 2 อาทิตย์ มันจะเป็นเชื้อใหม่ แต่ถ้าเกิดบ่อยมากกว่า 1 ครั้งใน 2 อาทิตย์ ควรตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป
ถ้าอาการเกิดในชาย อายุน้อยกว่า 40 ปีควรหาสาเหตุโดยละเอียด เพราะพบได้น้อยมาก
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ข้อมูลเก่าไทยเฮลท์กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยๆ แก้ได้อย่างไร
- เว็บบอร์ด ถกปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบ