general
ถ้าเขียนบล็อกพร้อมกันมากว่า30 บล็อกก็คงสับสนดี
ช่วงนี้ พยายามเก็บงาน ก็เลยมีงานชุกหน่อย ว่าด้วยการเขียนบล็อกละกัน นับไปนับมา ต้องเขียนตั้ง 30กว่าบล็อกต่อวัน แค่เขียนวันละเว็บก็ง่อยละ แถม อย่างที่ทราบ การจะเขียนให้ดี มันต้องมีปัจจัยหลายอย่างมาก ยกตัวอย่างคือทรัพยากรในการเขียน เพื่อให้ได้ตามที่เรคอมเมนต์จากค่าย seoทั้งหลายว่า ควรมากกว่า 600 คำ โหย… ที่แย่กว่านั้นคือ ต้องมีการรีไรท์ ไม่ให้ซ้ำ เพื่อไม่ให้ถูกลงโทษว่าเป็นพวกก๊อป ซะอีก การที่มีบล็อกเยอะๆ เราทำไปทำไม ..หลายๆคนคงทราบว่า การลิงค์หากันในทางเทคนิค เพื่อผลประโยชน์ในการยิงเว็บ หรือสร้างฐานกำลังก็ว่ากันไป แต่ถ้ามาดูก็พบว่า เหตุที่ผมเขียน เพราะอยากเขียนซะมากกว่า ไม่มีอะไรซับซ้อน 1 แอดโฆษณาไม่มี ตังไม่ได้ ไม่มีประโยชน์อื่นทับซ้อนนอกจากความรู้ เนอะ ปัยหาที่พบตอนนี้ คือพอมาดูแล้ว มันต้องมีบล็อกประธาน ที่เป็นในเรื่องเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าจะเอาให้ดี เราต้องสโคปให้มันเจาะในแต่ละบล็อกเว็บ ไม่ให้เหวี่ยงแห ซึ่งในบางกรณี ก็สับสนพอเปิดมา 30 เว็บปั๊บ ก็สตั๊นไปพักนึง เพราะไม่รู้จะให้ใครเป็นประธานในเรื่องใด อ่า 555 อย่างเรื่องสุขภาพ …
อัพเดตบทความ ในทุกเว็บอย่างไรไม่ให้เหนื่อย
นั่นสิ อันนี้คือบทความคำถามนะ จะอัพเดตไม่ให้เหนื่อยอย่างไร นึกถึงสมัยแรกๆสุด เรามีตัวช่วย เป็นระบบออโต้ ที่สามารถรัน wordpress ไปพร้อมๆกันได้หลายเว็บ โดยสามารถตั้งระบบการโพส บทความและเวลาแบบออโต้ จะเอาบทความจากของตัวเองก็ได้ หรือกีอปมา หรือผ่านการแปลงภาษามาโดย google ก็ได้
เว็บโดนขึงด้วย domain verification ซะ
ขออภัย thaihealth โดนแขวนไป 3 เดือน ต้องขออภัย ด้วยความที่ไม่ค่อยได้มีเวลา ด้วยงานประจำที่ใหม่มันค่อนข้างหนักหนา domain มันต้องมีการ verify ที่อยู่เป็นระยะๆ จดหมายก็มาแต่ไม่ใส่ใจ ไม่ได้ทำตามเวลา เลยโดนแขวน เข้าไม่ได้เป็น 3 เดือน จะบอกให้ว่ากลับมาแล้วครับ :}) เหมือนย้อนเวลา มาเขียน blog อีก Thaihealth เริ่มเมื่อปี 2002 ตอนนั้น เป็นครั้งแรกที่อยู่ที่รพ.กรุงเทพพัทยา จำได้ว่าพอมีเวลาว่างเลยทำเว็บขึ้นด้วย phpNUKE ซึ่งเป็น CMS (content driven system) เว็บแรกๆของโลก ซึ่งเป็นระบบเว็บ 2.0 แรกๆ และเป็นต้นแบบของ เว็บที่ขับเคลื่อนด้วยบทความที่สามารถโพสต์ได้ (ต้นแบบของบล็อก hi5 twitter , ที่มีฟังก์ชั่นคล้ายforum หรือเว็บบอร์ด และ facebook) ก่อนหน้าของ thaihealth ก็มี thaiclinic ซึ่งเป็น …
หมอกหรือควัน
สรุปแล้ว pm2.5 ปัจจุบันนี้นี่เราจะเจอกันอีกอย่างน้อยจนกว่าจะพ้นหน้าหนาว จำได้ว่าตอนเด็กๆ อากาศหน้าหนาวนี่เป็นแต่หมอก ไม่ค่อยมีควันมีกลิ่นแบบนี้ แต่ปัจจุบัน อะไรๆก็เปลี่ยน ยิ่งช่วงนี้ ฤดูเผา อะไรต่างๆ ก็ทำให้หมอก ผสมควัน มาเยือนตลอดในช่วงที่ลมไม่แรง อากาศที่เขาเรียกว่า inversion ก็คงต้องระมัดระวังกันไปนะครับ