Wart (หูด)

เกิดจาก papova virus ซึ่งมีอยู่หลายพันธุ์ทำให้เกิดหูดชนิดต่าง ๆ ขึ้น การติดโรคเกิดจากการ

สัมผัสเชื้อโดยตรง พบว่าสองในสามของผู้ป่วยหูดหายไปได้เองภายใน 2 ปี

1. Common wart

เป็นเม็ดนูนแข็ง ผิวขรุขระอาจมีเม็ดเดียวหรือหลายเม็ดก็ได้ พบบ่อยบริเวณมือและเท้า การรักษามีหลายวิธี ได้แก่ การตัดออก การจี้ด้วยไฟฟ้า

การจี้ด้วยน้ำแข็งแห้ง หรือไนโตรเจนเหลว การกัดด้วยยาซึ่งมีส่วนผสมของกรด salicylic และกรดแลคติค (Collomack, Duofilm) แต่ละวิธีได้ผลพอ ๆ กันคือประมาณร้อยละ 70

2. Plane wart

เป็นเม็ดเล็ก ๆ ผิวเรียบ มักอยู่กันเป็นกลุ่มที่หน้าผาก หลังมือ หน้าแข้ง การรักษามักไม่ค่อยจำเป็นเพราะหูดประเภทนี้หายเองได้ ในรายที่เป็นนานแล้วไม่หาย อาจจะลองให้ทา 0.05% retinoic acid cream วันละ 1 ครั้ง

3. Plantar wart

ลักษณะเป็นไตแข็งที่ฝ่าเท้าแยกยากจากตาปลา เมื่อใช้ใบมีดเฉือนหนังหนา ๆ ที่อยู่ส่วนบนออกถ้าเป็นหูดจะเห็นหัวของมันอยู่ใต้ และถ้าเฉือนลึกลงไปมักมีเลือดออกเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ถ้าเป็นตาปลาเมื่อเฉือนลงไปเรื่อย ๆ จะพบว่ามีแต่หนังที่หนาอย่างเดียวเท่านั้น

การรักษาไม่ควรใช้วิธีตัดออกหรือวิธีจี้ด้วยไฟฟ้า เพราะจะเกิดแผลเป็นที่ฝ่าเท้า ซึ่งทำให้เจ็บปวดมากเวลาเดิน วิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผลดี คือ การเฉือนหนังออกดังกล่าวข้างต้น เมื่อถึงจุดเลือดออกแล้วหยุดเฉือน ใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำยา phenol หรือกรด trichloracetic เข้มข้นป้ายที่หัวของหูดจนผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว ทำเช่นนี้สัปดาห์ละครั้งจนเนื้อหูดหลุดออกหมด โดยเฉลี่ยต้องทำประมาณ 3-4 ครั้ง

4. Genital wart

เป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ายหงอนไก่ เกิดขึ้นที่อวัยวะสืบพันธุ์หรือรอบทวารหนักติดต่อโดยเพศ

สัมพันธ์

การรักษาใช้ไม้ปลายแหลมจุ่ม 20% podophylline ทาที่ตัวหูดด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้ไม้พันสำลี เพราะสำลีจะอมน้ำยาจนชุ่มทำให้ยาไหลลงมาถูกเนื้อดีที่อยู่รอบ ๆ หลังจากทายาไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง ให้ผู้ป่วยล้างบริเวณที่ทายาด้วยน้ำเปล่า หูดจะแห้งหลุดไปใน 3-4 วัน ถ้ายังมีหูดเหลืออยู่ก็ทายาซ้ำ ใหม่ได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในผู้ป่วยที่มีครรภ์ห้ามใช้ podophylline รักษาเพราะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ในกรณีนี่ควรใช้วิธีจี้ด้วยไฟฟ้าหรือไนโตรเจนเหลวแทน

Molluscum contagiosum (หูดข้าวสุก)

เป็นตุ่มแข็งเล็กสีขาว ตรงกลางมีตุ่มมีรอยบุ๋ม (central umbilication) เมื่อสะกิดหนังให้เปิดออกด้วยปลายเข็มแล้วบีบดูจะมีเนื้อสีขาว ๆ คล้ายข้าวสุกออกมา โรคนี้ติดต่อโดยสัมผัส พบที่ใบหน้าและลำตัวของเด็กหรือบริเวณอวัยวะเพศในผู้ใหญ่

การรักษาใช้เข็มสะกิดแล้วบีบเอาเนื้อหูดออก แล้วทาด้านในด้วยน้ำยา phenol 1% หรือกรด trichloracetic 30-50% การใช้ไฟฟ้าจี้ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

CK

2535 แพทยศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2539 วุฒิบัตร อายุรศาสตร์

Share
Published by
CK

Recent Posts

วัคซีนป้องกันไข้หวัดนก(2550)

10 อันดับความก้าวหน้าหรือ medical breakthrough ทางการแพทย์ ประจำปี 2550 เรื่องที่ 3 วัคซีนไข้หวัดนก ตัวแรก ออกแล้ว ในปี 2007 ความกังวลว่า…

8 years ago

ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ทำไม อย่างไร เมื่อไร

หลายคนคงเคยมีคำถาม จะขลิบหนังหุ้มปลาย อย่างไร เมื่อไร และทำไม โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อแม่ที่มีลูกชาย อาจจะเคยมีแพทย์แนะนำให้ ขลิบหนังหุ้มปลายตั้งแต่เด็กยังเล็กๆเลย ซึ่งแน่นอน ว่าต้องเกิดความกังวลในใจคุณแน่ๆ (more…)

8 years ago

Health tip ป้องกันการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ข้อมูลจาก health day และศูนย์ข้อมูลโรคไตของสหรัฐ ได้ให้คำแนะนำสำหรับป้องกันการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ เช่นกระเพาะปัสสาวะและไต ดังนี้ ดื่มน้ำวันละมากๆ ห้ามกลั้นปัสสาวะนานๆ อาบน้ำโดยใช้การตักอาบหรือฝักบัว ดีกว่าใช้อ่างอาบน้ำ (more…)

8 years ago

สมาธิ จุดเริ่มต้นในการพัฒนาการเรียนของเด็ก

การปลูกฝังสมาธิในเด็ก เป็นการปูพื้นความสามารถในการเรียนรู้ให้เด็ก ผมมีบทความดีๆจาก ศูนย์จินตคณิต http://www.imaxbrain.com พัทยา ที่นำมาจากการสัมนาเรื่อง สมาธิ คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ที่ดี มาฝากครับ (more…)

8 years ago

ไข้หวัด

ไข้หวัด เกิดจากเชื้อไวรัสหวัด เด็กเล็ก ๆ อายุต่ำกว่า 6 เดือน เป็นหวัดน้อยกว่าเด็กโต ทั้งนี้เพราะ เด็กทารกช่วงวัยนั้น ได้รับภูมิต้านทาน เชื้อโรคหวัด ผ่านทางรก และเลือดของแม่ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์…

8 years ago

เหา Pediculosis capitis

เหา (Pediculosis capitis) เหาเกิดจากเชื้อปาราสิต ชื่อว่า "Pediculus humanus" ซึ่งอาศัยอยู่บนหนังศีรษะ เส้นผม ขน ปาราสิตนี้จะคอยดูดเลือดกินเป็นอาหาร และวางไข่บนเส้นผม โดยหลั่งสารไคติน (chitin) หุ้มปลายหนึ่งของไข่…

8 years ago