ผื่นแพ้ยา Stevens Johnsons syndrome
ถ้าหากจะลองไล่รายชื่อโรคที่แพทย์ไม่ต้องการจะเจอในชีวิตหนึ่ง โรคแพ้ยาชนิดรุนแรง สตีเวนส์ จอห์นสัน Stevens johnsons syndrome (SJS) และ TENS (Toxic epidermal necrolysis)
วันนี้เรานำบทความเก่าที่เคยนำเสนอในไทยเฮลท์ เกี่ยวกับเรื่อง โรคแพ้ยา Stevens Johnsons syndrome มาเสนอครับ

และ TENS หรือ toxic epidermal necrolysis คงเป็นโรคที่อยู่ในลำดับต้น ๆ เพราะเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ บางรายไม่เคยมีประวัติแพ้ยาก็เกิด บางรายเกิดจากการติดเชื้อเริม และเมื่อเป็นแล้วอัตราตายสูงถึง25-80%
ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่โรคนี้เป็นน้อยมาก จากอุบัติการณ์ในสหรัฐ พบ 2.6-8.2 รายใน 1000000(ล้าน)ราย ในจำนวนนี้ 50% เกิดจากยา อีกครึ่ง เกิดจากการติดเชื้อหรือไม่ทราบสาเหตุ อัตราการเสียชีวิตประมาณ 20-80%
เมื่อปีค.ศ. 1922 Stevens และ Johnsons ได้พบเด็กสองคน ที่มีอาการไข้ แผลเต็มปาก ตาอักเสบอย่างรุนแรง และผื่นตามตัว ซึ่งต่อมาได้ตั้งชื่อโรคตามเขาสองคนนี้
ลักษณะของโรค มักจะเกิดอาการในช่วง 1-4 อาทิตย์ภายหลังรับยา หรือภายหลังติดเชื้อ แต่มีรายงานว่าผู้ป่วยมักมีอาการไข้ ปากแห้ง ปวดเมื่อยในช่วงแรก อาจจะถึง 1-3 วันหลังได้ยาเลยก็ได้ ลักษณะผื่น ตอนแรก จะขึ้นเม็ดเล็ก ๆ ลามขยายใหญ่ กลายเป็นบวมพุพองทั้งตัว และลอกออกได้ในภายหลัง ผื่นจะกินบริเวณกว้างทั้งลำตัว ไม่เว้นแม้แต่เยื่อบุตา ปาก ช่องคลอด ก้น คือเป็นหมดร่างกาย
ผื่นในช่วงแรก ๆ อาจจะมีลักษณะเหมือนเป้าตาวัว (target lesion หรือ iris lesion) ตามรูปบางทีเรียกว่า Erythema multiforme(EM) แต่หลังจากนั้นก็จะลุกลามจนเป็นแบบรูปล่างได้
ผื่น Stevens Johnsons เกิดจากยาอะไรได้บ้าง
ที่เจอบ่อยคือ ยาซัลฟา Sulfa Sulfonamide , bactrim ยากันชัก เช่น Carbamazepine , ยารักษาโรคเก๊าท์ลดกรดยูริก allopurinol
ผื่น stevens Johnsons เกิดจากการติดเชื้ออะไรได้บ้าง
ส่วนใหญ่คือเชื้อเริม Herpes Simplex
เราจะแยกโรค SJS จากการแพ้อย่างอื่นได้อย่างไร
ผื่นโรคนี้มักมีในปาก ริมฝีปาก เนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ และเยื่อบุตา ที่การแพ้ยาอื่นๆมักไม่ค่อยมี
อ่านต่อที่นี่ครับ โรคแพ้ยา Stevens Johnsons syndrome